การสอลก่อได้ล่วงเลยไป คะแนนจะออกมาอย่างไงน้ออออออออออออ
เราทำสุดความสามารถเราแล้วน๊าๆๆๆๆๆ
อยากได้ เอ จังเลยยยยยย
ให้ เอ ผมหน่อยน๊าคร๊าฟฟฟฟ
วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554
ความแตกต่างของ CAI, WBI และ E-LEARNING
ความแตกต่างของ CAI, WBI และ E-LEARNING
E-learning เป็นเสมือนวิวัฒนาการของ WBI
CAI ทำงานภายใต้ Standalone หรือ อาจทำงานภายใต้ Local Area Network เพราะ CAI มิได้ออกแบบเพื่อการสื่อสารถึงกัน
WBI ทำงานบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสามารถทำการสื่อสารภายใต้ระบบ Multi-user ได้อย่างไร้พรมแดน โดยผู้เรียนสามารถรับส่งข้อมูลการศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Education Data) อย่างไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดสถานที่ และผู้เรียนและผู้สอนสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ และผู้สอนสามารถติดตามพฤติกรรมการเรียนตลอดจนผลการเรียนของผู้เรียนได้ และ สิ่งที่ทำให้ CAI ต่างจาก WBI คือ เรื่องการสื่อสาร
WBI สามารถทำการสื่อสารภายใต้ระบบ Multiuser ได้อย่างไร้พรมแดน โดยผู้เรียนสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้เรียนด้วย กัน อาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ ฐานข้อมูลความรู้ และยังสามารถรับส่งข้อมูลการศึกษาอิเล็คทรอนิค(Eletronic Education Data ) อย่างไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดสถานที่ ไม่มีพรมแดนกีดขวางภายใต้ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรืออาจเรียกว่าเป็น Virtual classroom เลยก็ได้ และนั้นก็คือการกระทำกิจกรรมใดๆ ภายในโรงเรียน ภายในห้องเรียน สามารถทำได้ทุกอย่างใน WBI ที่อยู่บนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จนกระทั่งคุณจบการศึกษาเลย
ส่วน WBI เป็นการเรียนทางไกลผ่านทางเว็บ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต หรือ เอ็กซ์ทราเน็ตก็ตาม
ส่วน E-learning หมายถึงการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต หรือ อินทราเน็ต เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง
วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554
คุณประโยชน์ของสื่อการสอน
คุณค่าของสื่อการสอน
สื่อการสอนนับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้เนื่องจากเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดเนื้อหา
จากผู้สอนไปยังผู้เรียน หรือเป็นสื่อที่ผู้เรียนใช้เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ดังนั้น สื่อการสอนจึงสามารถ
นำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งกับผู้เรียนและผู้สอนดังต่อไปนี้
สื่อกับผู้เรียน
สื่อการเรียนการสอนมีความสำคัญและคุณค่าต่อผู้เรียนดังนี้
เนื้อหาบทเรียนที่ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดใน
เรื่องนั้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
เป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจ
รู้สึกเบื่อหน่ายการเรียน
สื่อจะช่วยกระตุ้นและสร้างความสนใจให้กับผู้เรียน ทำให้เกิดความสนุกสนานและไม่
ความเข้าใจ และช่วยให้เกิดประสบการณ์ร่วมกันในวิชาที่เรียน
การใช้สื่อจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจตรงกันหากเป็นเรื่องของนามธรรมและยากต่อ
สัมพันธ์อันดีในระหว่างผู้เรียนด้วยกันเองและกับผู้สอนด้วย
สื่อช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนมากขึ้น ทำให้เกิดมนุษย
สร้างสรรค์จากการใช้สื่อเหล่านั้น
สร้างเสริมลักษณะที่ดีในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความคิด
การศึกษารายบุคคล
ช่วยแก้ปัญหาเรื่องของความแตกต่างระหว่างบุคคลโดยการจัดให้มีการใช้สื่อใน สื่อกับผู้สอน
สื่อการเรียนการสอนมีความสำคัญและคุณค่าต่อผู้สอนดังนี้
การสอนน่าสนใจยิ่งยิ่งขึ้น ทำให้ผู้สอนมีความกระตือรือร้นในการสอนมากกว่าวิธีการที่เคยใช้การ
บรรยายแต่เพียงอย่างเดียว และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองในเพิ่มขึ้นด้วย
การใช้สื่อวัตถุประสงค์ต่างๆประกอบการเรียนการสอน เป็นการช่วยให้บรรยากาศใน
และบางครั้งอาจให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากสื่อได้เอง
ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้สอนในด้านการเตรียมเนื้อหาเพราะสามารถนำสื่อมาใช้ซ้ำได้
เพื่อใช้เป็นสื่อการสอน ตลอดจนคิดค้นเทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อให้การเรียนรู้น่าสนใจยิ่งขึ้นเป็นการกระตุ้นให้ผู้สอนตื่นตัวอยู่เสมอในการเตรียมและผลิตวัสดุและเรื่องราวใหม่ๆ
วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554
ห้องเรียนเสมือนจริง
ห้องเรียนเสมือนสามารถจำแนกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
จัดการเรียนการสอนในห้องเรียนธรรมดา แต่มีการถ่ายทอดสดภาพและเสียงเกี่ยวกับเนื้อหาของบทเรียนโดยอาศัยระบบโทรคมนาคมและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า Online ไปยังผู้เรียนที่อยู่นอกห้องเรียน นิสิตสามารถรับฟังและติดตามการสอนของผู้สอนได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองอีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกับอาจารย์ผู้สอนหรือเพื่อนนิสิตที่อยู่คนละแห่งได้
ห้องเรียนเสมือนเป็นการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบเครือข่าย ที่อาศัยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการสื่อสสารและอินเทอร์เน็ต การเรียนการสอนจึงต้องมีการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์การเรียนการสอนทำได้โดยผู้เรียนใช้คอมพิวเตอร์ เข้าสู่เว็บไซต์ ของห้องเรียนเสมือนและดำเนินการเรียนตามกิจกรรมที่ผู้สอนได้ออกแบบไว้ ห้องเรียนลักษณะนี้เรียกว่า ห้องเรียนเสมือนที่แท้ การเข้าสู่เว็บไซต์ห้องเรียนเสมือนนี้ ภาพที่ปรากฏเป็นหน้าแรก เรียกว่า โฮมเพจ ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นชื่อรายวิชาที่สอน ชื่อผู้สอน และข้อความสั้นๆต่างๆที่เป็นหัวข้อสำคัญในการเรียนการสอนเท่านั้น โฮมเพจนี้จะถูกออกแบบต่างๆให้มีความสวยงามด้วยภาพถ่าย ภาพกราฟิก ตัวอักษรและการให้สีสันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน ข้อความสั้นๆที่จัดเรียงอยู่ในหน้าโฮมเพจได้ถูกเชื่อมโยงไปสู่หน้าเว็บเพจ ซึ่งเป็นหัวข้อย่อยและเชื่อมโยงไปสู่เว็บเพจรายละเอียด ซึ่งเป็นข้อมูลการเรียนการสอนในแต่ละส่วนตามลำดับความสำคัญ โดยผู้เรียนเพียงคลิกเม้าท์เลือกเรียนในหัวข้อซึ่งเป็นเนื้อหาหรือกิจกรรมการเรียนการสอนที่ตนเองสนใจได้ตามต้องการ เช่น เว็บเพจประกาศข่าว เว็บเพจประมวลวิชา เว็บเพจเนื้อหา เว็บเพจแสดงความคิดเห็น เว็บเพจสรุปบทเรียน เว็บเพจตอบปัญหา เว็บเพจแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ เว็บเพจการประเมินผล และเว็บเพจอื่นๆตามที่ถูกออกแบบไว้
จัดการเรียนการสอนในห้องเรียนธรรมดา แต่มีการถ่ายทอดสดภาพและเสียงเกี่ยวกับเนื้อหาของบทเรียนโดยอาศัยระบบโทรคมนาคมและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า Online ไปยังผู้เรียนที่อยู่นอกห้องเรียน นิสิตสามารถรับฟังและติดตามการสอนของผู้สอนได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองอีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกับอาจารย์ผู้สอนหรือเพื่อนนิสิตที่อยู่คนละแห่งได้
ห้องเรียนเสมือนเป็นการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบเครือข่าย ที่อาศัยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการสื่อสสารและอินเทอร์เน็ต การเรียนการสอนจึงต้องมีการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์การเรียนการสอนทำได้โดยผู้เรียนใช้คอมพิวเตอร์ เข้าสู่เว็บไซต์ ของห้องเรียนเสมือนและดำเนินการเรียนตามกิจกรรมที่ผู้สอนได้ออกแบบไว้ ห้องเรียนลักษณะนี้เรียกว่า ห้องเรียนเสมือนที่แท้ การเข้าสู่เว็บไซต์ห้องเรียนเสมือนนี้ ภาพที่ปรากฏเป็นหน้าแรก เรียกว่า โฮมเพจ ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นชื่อรายวิชาที่สอน ชื่อผู้สอน และข้อความสั้นๆต่างๆที่เป็นหัวข้อสำคัญในการเรียนการสอนเท่านั้น โฮมเพจนี้จะถูกออกแบบต่างๆให้มีความสวยงามด้วยภาพถ่าย ภาพกราฟิก ตัวอักษรและการให้สีสันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน ข้อความสั้นๆที่จัดเรียงอยู่ในหน้าโฮมเพจได้ถูกเชื่อมโยงไปสู่หน้าเว็บเพจ ซึ่งเป็นหัวข้อย่อยและเชื่อมโยงไปสู่เว็บเพจรายละเอียด ซึ่งเป็นข้อมูลการเรียนการสอนในแต่ละส่วนตามลำดับความสำคัญ โดยผู้เรียนเพียงคลิกเม้าท์เลือกเรียนในหัวข้อซึ่งเป็นเนื้อหาหรือกิจกรรมการเรียนการสอนที่ตนเองสนใจได้ตามต้องการ เช่น เว็บเพจประกาศข่าว เว็บเพจประมวลวิชา เว็บเพจเนื้อหา เว็บเพจแสดงความคิดเห็น เว็บเพจสรุปบทเรียน เว็บเพจตอบปัญหา เว็บเพจแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ เว็บเพจการประเมินผล และเว็บเพจอื่นๆตามที่ถูกออกแบบไว้
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554
ณ หอศิลป์ ดินแดนแห่งความรู้
1. แหล่งการเรียนรู้หมายถึงอะไร
แหล่งเรียนรู้ หมายถึง แหล่งข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ที่สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เรียนใฝ่เรียน ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
2. หอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกเป็นแหล่งการเรียนรู้ เพราะอะไร
เพราะเป็นสถาบันที่ถาวรในการรวบรวม สงวนรักษา ศึกษาวิจัย สื่อสาร และจัดแสดงนิทรรศการ ให้บริการแก่สังคมเพื่อการพัฒนา โดยมีความมุ่งหมายเพื่อการค้นคว้าการศึกษา และความเพลิดเพลิน โดยแสดงหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับมนุษย์และสภาพแวดล้อม สิ่งซึ่งสงวนรักษาและจัดแสดงเป็นวัตถุ
3. หอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกเหมาะกับการสอนกลุ่มสาระใด
§ กลุ่มสาระการสอนสังคมศึกษา
§ กลุ่มสาระการสอนศิลปะ
4. แหล่งโบราณคดี สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในภาคตะวันออกนำเสนอรายละเอียดของเนื้อหาใดบ้าง
นำเสนอแหล่งโบราณาคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งมีควมสำคัญในฐานะที่แสดง ถึงหลักฐานการตั้งถิ่นฐาน ของชุมชนโบราณบริเวณชายฝั่งทะเล ที่สะท้อนชีวิตความเป็นอยู่และวิถีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น แหล่งโบราณคดีหนองโน จังหวัดชลบุรี นำเสนอแหล่งโบราณคดีที่มีการพบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณ ที่มีอายุถึง ๔,๕๐๐ – ๔,๐๐๐ ปี นับเป็นชุมชนฝั่งทะเลสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และ แหล่งโบราณคดีโคกพนมดี จังหวัดชลบุรี นำเสนอเรื่องราวของโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่พบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุ ๔,๕๐๐ – ๔,๐๐๐ ปี มาแล้วซึ่งพึ่งพาหาอาหารจากทะเลเป็นหลัก และมีการอยู่อาศัยต่อเนื่องนานกว่า ๔๐๐ ปี และ เมืองโบราณที่สำคัญในยุคก่อนประวัติศาสตร์บนดินแดนบูรพาทิศินำเสนอเรื่องราวของเมืองโบราณที่สำคัญ ได้แก่ เมืองเพนียด จังหวัดจันทบุรี เมืองพระรถ จังหวัดชลบุรี เมืองศรีพโล จังหวัดชลบุรี เมืองพญาแร่ จังหวัดชลบุรี
5. วิถีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมบนแผ่นดินตะวันออกในยุคประวัติศาสตร์ก่อนสยามประเทศเป็นอย่างไร
เป็นการรับวัฒนธรรมภายนอกทั้งจากอินเดีย เขมรโบราณ และดินแดนโพ้นทะเลเข้ามามีอิทธิพล บนพื้นแผ่นดินภาคตะวันออก รับเอาอิทธิพลความเชื่อและศาสนาทั้งพุทธ พราหมณ์ และฮินดู เข้ามามีบทบาท ซึ่งปรากฎเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุเป็นจำนวนมากและยังปรากฎร่องรอยหลักฐานจวบจนปัจจุบัน
6. บันทึกภาพตัวอย่างประเภทของเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามกรวยประสบการณ์ของ Edgar Dale พร้อมคำอธิบาย
ประสบการณ์ตรงและมีความมุ่งหมาย เป็นประสบการณ์ที่เป็นรากฐานของประสบการณ์ทั้งปวง เพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้เห็น ได้ยินเสียง ตลอดจนการสัมผัส ในหอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกแห่งนี้ได้มีการนำเสนอสื่อประเภทนี้โดย จัดวิทยากรมาบรรยายแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมจัดแสดง แสง สี เสียง ให้ผู้เข้าศึกษาตลอดจนผู้ที่เข้าเยี่ยมชมได้ทำการชมใน แสง สี เสียง นั้น โดยให้ผู้เข้ารับการศึกษาหรนือผู้สนใจที่จะศึกษาในหอศิลป์แห่งนี้ ได้สัมผัสจาก อยาตนะทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ปาก ลิ้น กาย และใจ
การสาธิต เป็นการอธิบายข้อเท็จจริง ความจริง และกระบวนการที่สำคัญด้วยการให้เห็นเป็นลำดับขั้น การสาธิตอาจทำได้โดยครูเป็นคนสาธิต หรืออาจใช้ภาพยนตร์ในการสาธิตก็ได้ ในหอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกแห่งนี้ได้มีการนำเสนอสื่อประเภทนี้โดย มีการสาธิตของวิถีชาวบ้านในระแวกภาคตะวันออกว่ามีการดำเนินชีวิตอย่างไร ความเป็นอยู่เป็นอย่างไร อาหารการกินของบุคคลในยุคสมัยนั้นว่าเป็นอาหารแบบไหน ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับวัดเป็นอย่างไร
การศึกษานอกสถานที่ คือการพานักเรียนหรือผู้ที่สนใจจะศึกษาไปศึกษายังแหล่งที่ให้ความรู้นอกห้องเรียน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์มากยิ่งขึ้น ในที่นี้คือ อาจารย์ ดร.อุทิศ บำรุงชีพ ได้มีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณการเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียนในชั้นเรียน โดยได้นำนิสิต สาขาการสอนสังคมศึกษา ได้ไปทัศนะศึกษาหรือดูงานที่ หอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออก ณ มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อให้รู้ว่ามีการนำหลักและสื่อ หรือทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับสื่อการสอน ไปใช้ในชีวิตประจำวันมากแค่ไหน ตลอดจนมีการนำคุรธรรม จริยธรรม ประเพณี วัฒนธรรมที่ได้แสดงในหอศิลป์ออกมาประยุกต์ใช้ในการเรียนของตัวผู้เรียนเอง หรือการดำเนินชีวิตของตัวผู้เรียนได้
นิทรรศการ คือ การจัดแสดงสิ่งต่างๆ รวมทั้งมีการสาธิตและการฉายภาพยนตร์ประกอบเพื่อให้ประสบการณ์ในการเรียนรู้แก่ผู้ที่สนใจการศึกษา ศึกษา ในหอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกแห่งนี้ได้มีการนำเสนอสื่อประเภทนี้โดย
1. เยืยนถิ่นบูรพาวันนี้ ได้นำเสนอลักษณะกายภาพของพื้นที่ และภาพรวมของภาคตะวันออกในปัจจุบัน ทั้งสภาพความเป็นอยู่ และวิถีทำกินของชุมชน
2. ตามรอยอารยธรรมแห่งบูรพทิศ ได้นำเสนอการพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่และชุมชนในภาคตะวันออก มีความหมายสืบและรัตนโกสินทร์เนื่องทางวัฒนธรรม มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ทราวดี เขมรโบราณ สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี
3. แหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในภาคตะวันออก ได้นำเสนอแหล่งโปราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความสำคัญในฐานะที่แสดง ถึงหลักฐานการตั้งถิ่นฐาน ของชุมชนโบราณบริเวณริมฝั่งทะเล ที่สะท้อนภาพชีวิตความเป็นอยู่ และวิถีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
4. แหล่งโบราณคดีหนองโน จังหวัดชลบุรี ได้นำเสนอเรื่องราวของแหล่งโบราณคดีที่มีการพบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณ ที่มีอายุถึง ๔๕๐๐-๔๐๐๐ ปี นับเป็นชุมชนฝั่งทะเลสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
5. แหล่งโบราณคดีโคกพนมดี จังหวัดชลบุรี ได้นำเสนอเรื่องราวของโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์เพียง แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งพบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุ ๔๕๐๐ – ๔๐๐๐ ปี มาแล้วซึ่งพึ่งพาอาหารจากทะเลเป็นหลัก และมีการอยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานกว่า ๔๐๐ ปี
6. เมืองโบราณที่สำคัญในประวัติศ่สตร์บนดินแดนบูรพทิศ ได้นำเสนอเรื่องราวของเมืองโบราณสำคัญได้แก่ เมืองเพนียด จังหวัดจันทบุรี เมืองพระรถ จังหวัดชลบุรี เมืองศรีพโล จังหวัดชลบุรี เมืองพญาแร่ จังหวัดชลบุรี
7. วิธีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม บนแผ่นดินภาคตะวันออก ในยุคประวัติศาสตร์ก่อนสยามประเทศ ได้นำเสนอเรื่องราวของวัฒนธรรมภายนอกทั้งจากอินเดีย เขมรโบราณ และดินแดนดพ้นทะเลที่เข้ามามีอิทธิพล บนแผ่นดินภาคตะวันออก และยังปรานกฎร่องรอยหลักฐานจวบจนปัจจุบัน
8. อิทธิพลความเชื่อและศาสนาในเมืองโบราณศรีมโหสถ ได้นำเสนอเรื่องราวของอิทธิพลความเชื่อและศาสนาหลากหลายวัฒนธรรมทั้งพุทธ พราหมณ์ อินดู ที่เข้ามามีบทบาทในเมืองซรีมโหสถ วึ่งปรากฏเป็นหลักฐานโบราณสถานและโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก
9. เมืองศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี บนแผ่นดินภาคตะวันออก ได้รำเสนอเรื่องราวของเมืองศรีมโหสถ เมืองโบราณสำคัญในสมัยวัฒนธรรม ทราวดี ซึ่งมีพัฒนาการมาจาก สถานีการค้าสำคัญที่มีการตั้งถิ่นฐานของชุมชน มาตั่งตาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ถึงสมัยทราวดี
10. ชนต่างวัฒนธรรมในชุมชนภาคตะวันออก ได้นำเสนอกลุ่มชาติพันธุ์สำคัญที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บนแผ่นดินภาคตะวันออก ได้แก่ คนชอง คนจีน คนญวน คนลาว และคนไทยมุสลิม
11. ภาพจิตรกรรมฝาผนัง งานศิลปะอันทรงคุณค่า ได้นำเสนอภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดริมฝั่งทะเลภาคตะวันออกซึ่งเป็นงานศิลปะอันทรงคุณค่า มีเอกลักษณ์ของงานฝีมือช่างท้องถิ่น และสะท้อนถึงภาพสังคม วัฒนธรรมความเชื่อของชุมชน

ภาพยนตร์และโทรทัศน์ คือ เป็นสิ่งที่ให้ผู้เรียนหรือผู้ที่สนใจจะศึกษาได้เรียนรู้ด้วยการเห็นและการได้ยินเสียงของสถานการณ์ต่างๆ และเรื่องราวต่างๆได้มองเห็นภาพในลักษณะการเคลื่อนไหวเหมือนจริงไปพร้อมๆกัน ในหอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกแห่งนี้ได้มีการนำเสนอสื่อประเภทนี้โดย มีการจัดทำสื่อวีดีโอ แนะนำการเข้าศึกษาในหอศิลป์แหล่งนี้ ว่ามีนิทรรศการใดบ้าง และเกี่ยวข้องกับอะไรในภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น แหล่งโบราณคดี แหล่งทำมาหากินของชาวบ้านแถวภาคตะวันออก วิถึชีวิตการเป็นอยู่ ตลอดจนการตั้งถิ่นอาสัยว่าตั่งอยุ่ในที่สมคารหรือไม่
ทัศนสัญลักษณ์ มีความเป็นนามธรรมมากขึ้น จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้เรียนเป็นพื้นฐาน ในการเลือกนำไปใช้ ในหอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออกแห่งนี้ได้มีการนำเสนอสื่อประเภทนี้โดย มีภาพประกอบหรือบรรยายแต่ละจุด เริ่มแรกด้วยภาพแสดงจุดต่างๆในหอศิลปวัฒนธรรนมภาคตะวันออก แผนภาพทางด้านโบราณคดีต่างๆ ตลอดจนอารยธรรมต่างๆในบูรพทิศ
7. ให้บันทึกภาพถ่ายกลุ่มของตนเองในการเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการดังกล่าว
แนวคิดพื้นฐานของนวัตกรรมทางการศึกษา
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลอย่างมาก ต่อวิธีการศึกษา ได้แก่แนวความคิดพื้นฐานทางการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไป อันมีผลทำให้เกิดนวัตกรรมการศึกษาที่สำคัญๆ พอจะสรุปได้4 ประการ คือ
1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different) การจัดการศึกษาของไทยได้ให้ความสำคัญในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลเอาไว้อย่างชัดเจนซึ่งจะเห็นได้จากแผนการศึกษาของชาติ ให้มุ่งจัดการศึกษาตามความถนัดความสนใจ และความสามารถ ของแต่ละคนเป็นเกณฑ์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่ การจัดระบบห้องเรียนโดยใช้อายุเป็นเกณฑ์บ้าง ใช้ความสามารถเป็นเกณฑ์บ้าง นวัตกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อสนองแนวความคิดพื้นฐานนี้ เช่น
- การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded School)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- เครื่องสอน (Teaching Machine)
- การสอนเป็นคณะ (TeamTeaching)
- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
- เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
2. ความพร้อม (Readiness) เดิมทีเดียวเชื่อกันว่า เด็กจะเริ่มเรียนได้ก็ต้องมีความพร้อมซึ่งเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันการวิจัยทางด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นว่าความพร้อมในการเรียนเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นได้ ถ้าหากสามารถจัดบทเรียน ให้พอเหมาะกับระดับความสามารถของเด็กแต่ละคน วิชาที่เคยเชื่อกันว่ายาก และไม่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็กก็สามารถนำมาให้ศึกษาได้ นวัตกรรมที่ตอบสนองแนวความคิดพื้นฐานนี้ได้แก่ ศูนย์การเรียน การจัดโรงเรียนในโรงเรียน นวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
- ศูนย์การเรียน (Learning Center)
- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
- การปรับปรุงการสอนสามชั้น (Instructional Development in 3 Phases)
3. การใช้เวลาเพื่อการศึกษา แต่เดิมมาการจัดเวลาเพื่อการสอน หรือตารางสอนมักจะจัดโดยอาศัยความสะดวกเป็นเกณฑ์ เช่น ถือหน่วยเวลาเป็นชั่วโมง เท่ากันทุกวิชา ทุกวันนอกจากนั้นก็ยังจัดเวลาเรียนเอาไว้แน่นอนเป็นภาคเรียน เป็นปี ในปัจจุบันได้มีความคิดในการจัดเป็นหน่วยเวลาสอนให้สัมพันธ์กับลักษณะของแต่ละวิชาซึ่งจะใช้เวลาไม่เท่ากัน บางวิชาอาจใช้ช่วงสั้นๆ แต่สอนบ่อยครั้ง การเรียนก็ไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น นวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
- การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น (Flexible Scheduling)
- มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- การเรียนทางไปรษณีย์
4. ประสิทธิภาพในการเรียน การขยายตัวทางวิชาการ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทำให้มีสิ่งต่างๆ ที่คนจะต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้นมาก แต่การจัดระบบการศึกษาในปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจึงจำเป็นต้องแสวงหาวิธีการใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านปัจจัยเกี่ยวกับตัวผู้เรียน และปัจจัยภายนอก นวัตกรรมในด้านนี้ที่เกิดขึ้น เช่น
- มหาวิทยาลัยเปิด
- การเรียนทางวิทยุ การเรียนทางโทรทัศน์
- การเรียนทางไปรษณีย์ แบบเรียนสำเร็จรูป
- ชุดการเรียน
1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different) การจัดการศึกษาของไทยได้ให้ความสำคัญในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลเอาไว้อย่างชัดเจนซึ่งจะเห็นได้จากแผนการศึกษาของชาติ ให้มุ่งจัดการศึกษาตามความถนัดความสนใจ และความสามารถ ของแต่ละคนเป็นเกณฑ์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่ การจัดระบบห้องเรียนโดยใช้อายุเป็นเกณฑ์บ้าง ใช้ความสามารถเป็นเกณฑ์บ้าง นวัตกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อสนองแนวความคิดพื้นฐานนี้ เช่น
- การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded School)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- เครื่องสอน (Teaching Machine)
- การสอนเป็นคณะ (TeamTeaching)
- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
- เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
2. ความพร้อม (Readiness) เดิมทีเดียวเชื่อกันว่า เด็กจะเริ่มเรียนได้ก็ต้องมีความพร้อมซึ่งเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันการวิจัยทางด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นว่าความพร้อมในการเรียนเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นได้ ถ้าหากสามารถจัดบทเรียน ให้พอเหมาะกับระดับความสามารถของเด็กแต่ละคน วิชาที่เคยเชื่อกันว่ายาก และไม่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็กก็สามารถนำมาให้ศึกษาได้ นวัตกรรมที่ตอบสนองแนวความคิดพื้นฐานนี้ได้แก่ ศูนย์การเรียน การจัดโรงเรียนในโรงเรียน นวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
- ศูนย์การเรียน (Learning Center)
- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
- การปรับปรุงการสอนสามชั้น (Instructional Development in 3 Phases)
3. การใช้เวลาเพื่อการศึกษา แต่เดิมมาการจัดเวลาเพื่อการสอน หรือตารางสอนมักจะจัดโดยอาศัยความสะดวกเป็นเกณฑ์ เช่น ถือหน่วยเวลาเป็นชั่วโมง เท่ากันทุกวิชา ทุกวันนอกจากนั้นก็ยังจัดเวลาเรียนเอาไว้แน่นอนเป็นภาคเรียน เป็นปี ในปัจจุบันได้มีความคิดในการจัดเป็นหน่วยเวลาสอนให้สัมพันธ์กับลักษณะของแต่ละวิชาซึ่งจะใช้เวลาไม่เท่ากัน บางวิชาอาจใช้ช่วงสั้นๆ แต่สอนบ่อยครั้ง การเรียนก็ไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น นวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
- การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น (Flexible Scheduling)
- มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)
- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
- การเรียนทางไปรษณีย์
4. ประสิทธิภาพในการเรียน การขยายตัวทางวิชาการ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทำให้มีสิ่งต่างๆ ที่คนจะต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้นมาก แต่การจัดระบบการศึกษาในปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจึงจำเป็นต้องแสวงหาวิธีการใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านปัจจัยเกี่ยวกับตัวผู้เรียน และปัจจัยภายนอก นวัตกรรมในด้านนี้ที่เกิดขึ้น เช่น
- มหาวิทยาลัยเปิด
- การเรียนทางวิทยุ การเรียนทางโทรทัศน์
- การเรียนทางไปรษณีย์ แบบเรียนสำเร็จรูป
- ชุดการเรียน
วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554
วันที่นิสิตนักศึกษา ......รอคอย
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2473 โดยทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่เวชชบัณฑิต(แพทยศาสตรบัณฑิต ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ตึกบัญชาการ (อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ ในปัจจุบัน) โดยทางมหาวิทยาลัยได้ส่งหนังสือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ 11 แห่ง เช่น กรมยุทธศึกษาทหารบก กรมยุทธศึกษาทหารเรือ สภากาชาดสยาม วชิรพยาบาล มหามงกุฎราชวิทยาลัย ราชบัณฑิตยสภา และโรงเรียนกฎหมาย เป็นต้น โดยได้เชิญพระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงต่าง ๆ เข้าร่วมพระราชพิธีครั้งนี้ด้วย
โดยในงานพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนั้น มหาอำมาตย์เอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร ได้ทูลเกล้าฯ ถวายฉลองพระองค์ครุยบัณฑิตพิเศษแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานครุยกิตติมศักดิ์บัณฑิตชั้นโท หรือ มหาบัณฑิตในปัจจุบัน ทางวิทยาศาสตร์แก่พระยาภะรตราชา ผู้บัญชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในขณะนั้น และบัณฑิตชั้นเอก หรือ ดุษฎีบัณฑิตในปัจจุบัน แก่ศาสตราจารย์ นายแพทย์ เอ จี เอลลิส คณบดีคณะแพทยศาสตร์ในขณะนั้น หลังจากนั้น พระองค์ทรงพระกรุณาพระราชทานปริญญาบัตรแก่เวชชบัณฑิตจำนวน 34 คน โดยสำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2471 จำนวน 18 คน ใน พ.ศ.2472 จำนวน 16 คน และพระราชทานพระบรมราโชวาท แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
โดยหลังจากพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนั้นเสร็จสิ้นแล้ว สภามหาวิทยาลัยได้เสนอให้กระทรวง ธรรมการกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตว่า "มหาวิทยาลัยขอพระบรมราชานุญาตสงวนธรรมเนียมนี้ไว้ คือ ถือว่าการพระราชทานปริญญาบัตรเป็นการหน้าที่นั่ง หากเสด็จไม่ได้ก็จะเป็นการถวายปฏิญญาต่อพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ และรับพระราชทานปริญญาบัตรจากผู้แทนพระองค์" เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบแล้ว ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตตามที่มหาวิทยาลัยกราบบังคมทูลขอ ดังนั้น พิธีพระราชทานปริญญาบัตรจึงเป็นธรรมเนียมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
โดยในงานพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนั้น มหาอำมาตย์เอกพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร ได้ทูลเกล้าฯ ถวายฉลองพระองค์ครุยบัณฑิตพิเศษแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานครุยกิตติมศักดิ์บัณฑิตชั้นโท หรือ มหาบัณฑิตในปัจจุบัน ทางวิทยาศาสตร์แก่พระยาภะรตราชา ผู้บัญชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในขณะนั้น และบัณฑิตชั้นเอก หรือ ดุษฎีบัณฑิตในปัจจุบัน แก่ศาสตราจารย์ นายแพทย์ เอ จี เอลลิส คณบดีคณะแพทยศาสตร์ในขณะนั้น หลังจากนั้น พระองค์ทรงพระกรุณาพระราชทานปริญญาบัตรแก่เวชชบัณฑิตจำนวน 34 คน โดยสำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2471 จำนวน 18 คน ใน พ.ศ.2472 จำนวน 16 คน และพระราชทานพระบรมราโชวาท แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
โดยหลังจากพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนั้นเสร็จสิ้นแล้ว สภามหาวิทยาลัยได้เสนอให้กระทรวง ธรรมการกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตว่า "มหาวิทยาลัยขอพระบรมราชานุญาตสงวนธรรมเนียมนี้ไว้ คือ ถือว่าการพระราชทานปริญญาบัตรเป็นการหน้าที่นั่ง หากเสด็จไม่ได้ก็จะเป็นการถวายปฏิญญาต่อพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ และรับพระราชทานปริญญาบัตรจากผู้แทนพระองค์" เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบแล้ว ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตตามที่มหาวิทยาลัยกราบบังคมทูลขอ ดังนั้น พิธีพระราชทานปริญญาบัตรจึงเป็นธรรมเนียมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554
เทคโนโลยีกับเด็กไทย
ผมจะพูดเรื่อง เทคโนโลยีกับเด็กไทยครับ...
เดี๋ยวนี้ถ้าทุกๆ ท่านสังเกตตามสองฝั่งถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใกล้ๆ สถานศึกษา จะพบบริการ Internet เยอะมาก นี่แหละครับเทคโนโลยีที่พูดถึง และเด็กไทยที่พูดถึง ก็เด็กนักเรียน นิสิต นักศึกษาไงครับ สองอย่างนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ... ตามผมมาครับ ...
...เราๆ ท่านๆ เคยสังเภตพฤติกรรมของเด็กๆ ที่อยู่ในร้านบ้างไม๊ครับว่า เด็กๆ เขาทำอะไรกัน ... นั่งในร้าน Internet ก็ต้องมาเล่น Internet น่ะสิ ... ใช่ครับ แต่สิ่งที่เด็กๆ เหล่านี้กำลังฮิตคือ การ chat ครับ ที่ฮิตมากๆ เนี่ยคงไม่พ้น Pirch (กรณีที่เด็กมาใช้บริการร้านพวกนี้นะครับ เพราะ icq เนี่ยจะไม่สะดวกเท่า) วันๆ เอาแต่นั่ง(ขออภัยถ้าใช้ถ้อยคำรุนแรงครับ ถ้า webmaster เห็นว่าไม่เหมาะสม ช่วยหาคำอื่นทดแทนด้วยครับ)ตอ... จีบกันไปจีบกันมา ด่ากันด้วยถ้อยคำที่รุนแรงบ้าง หยาบโลนบ้าง ... นีมันอะไรกันเหรอครับ เรามีเทคโนโลยี Internet ไว้เพื่อ chat เหรอครับ แล้วตรงนี้ยังไม่น่าเจ็บปวดเท่ากับว่า เด็กพวกนี้ล้วนแต่ยังอยู่ในวัยเรียน ต้องใช้สตางค์ของพ่อแม่ แต่กลับเอาเงินมาไร้สาระ ... เป็นอย่างไรบ้างครับ เทคโนโลยีกับเด็กไทยสมัยนี้ ...
สุดท้ายนี้ผมก็ยังขอบอกแหละครับว่า organizer ที่ผมซื้อมาเนี่ย มันก็ให้ประโยชน์กับผม อาจจะไม่มาก ... แต่ก็ไม่น้อยนัก ... ราคาอาจจะสูงไปหน่อย แต่ว่ามันก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไร ... ถ้าจะเปรียบกับเทคโนโลยีและเด็ก คุณคิดว่า Internet มันมีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากันครับ ... แล้วเราจะแก้ไขกันอย่างไร หากวันหนึ่งลูกเรากลายเป็นหนึ่งในนั้น .
เดี๋ยวนี้ถ้าทุกๆ ท่านสังเกตตามสองฝั่งถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใกล้ๆ สถานศึกษา จะพบบริการ Internet เยอะมาก นี่แหละครับเทคโนโลยีที่พูดถึง และเด็กไทยที่พูดถึง ก็เด็กนักเรียน นิสิต นักศึกษาไงครับ สองอย่างนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ... ตามผมมาครับ ...
...เราๆ ท่านๆ เคยสังเภตพฤติกรรมของเด็กๆ ที่อยู่ในร้านบ้างไม๊ครับว่า เด็กๆ เขาทำอะไรกัน ... นั่งในร้าน Internet ก็ต้องมาเล่น Internet น่ะสิ ... ใช่ครับ แต่สิ่งที่เด็กๆ เหล่านี้กำลังฮิตคือ การ chat ครับ ที่ฮิตมากๆ เนี่ยคงไม่พ้น Pirch (กรณีที่เด็กมาใช้บริการร้านพวกนี้นะครับ เพราะ icq เนี่ยจะไม่สะดวกเท่า) วันๆ เอาแต่นั่ง(ขออภัยถ้าใช้ถ้อยคำรุนแรงครับ ถ้า webmaster เห็นว่าไม่เหมาะสม ช่วยหาคำอื่นทดแทนด้วยครับ)ตอ... จีบกันไปจีบกันมา ด่ากันด้วยถ้อยคำที่รุนแรงบ้าง หยาบโลนบ้าง ... นีมันอะไรกันเหรอครับ เรามีเทคโนโลยี Internet ไว้เพื่อ chat เหรอครับ แล้วตรงนี้ยังไม่น่าเจ็บปวดเท่ากับว่า เด็กพวกนี้ล้วนแต่ยังอยู่ในวัยเรียน ต้องใช้สตางค์ของพ่อแม่ แต่กลับเอาเงินมาไร้สาระ ... เป็นอย่างไรบ้างครับ เทคโนโลยีกับเด็กไทยสมัยนี้ ...
สุดท้ายนี้ผมก็ยังขอบอกแหละครับว่า organizer ที่ผมซื้อมาเนี่ย มันก็ให้ประโยชน์กับผม อาจจะไม่มาก ... แต่ก็ไม่น้อยนัก ... ราคาอาจจะสูงไปหน่อย แต่ว่ามันก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไร ... ถ้าจะเปรียบกับเทคโนโลยีและเด็ก คุณคิดว่า Internet มันมีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากันครับ ... แล้วเราจะแก้ไขกันอย่างไร หากวันหนึ่งลูกเรากลายเป็นหนึ่งในนั้น .
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554
แบบฝึกหัดเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
แบบฝึกหัดเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1. การเรียนการสอนแบบดั้งเดิมไปสู่การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นมีการเปลี่ยนไปอย่างไร จงอธิบาย
การเรียนการสอนในอดีตนั้น จะเป็นการเรียนการสอนโดยเน้นที่ครูผู้สนอนเป็นส่วนใหญ่ กล้าวคือ ครูผู้สอนจะเป็นผู้ชี้นำ บอกให้ทำ ตลอดจน เอาความรู้มาให้นักเรียน ครูจะเป็นผู้ที่คอยป้อนข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ในเนื้อหารายวิชาต่างๆ ความประพฤติตัวที่ดีงาม คุณธรรมจริยธรรม หรือ จะเรียกว่า ครุเป็น ผู้ชี้นำ การเรียนการสอนนั้น ยังยึดติดกับการใช้ตำรา และกระดานดำเป็นส่วนใหญ่ โดยจะสอนตามเนื้อหาที่ครูผู้สอนได้จัดทำไว้อย่างละเอียด
การเรียนการสอนในอดีตนั้น จะเป็นการเรียนการสอนโดยเน้นที่ครูผู้สนอนเป็นส่วนใหญ่ กล้าวคือ ครูผู้สอนจะเป็นผู้ชี้นำ บอกให้ทำ ตลอดจน เอาความรู้มาให้นักเรียน ครูจะเป็นผู้ที่คอยป้อนข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ในเนื้อหารายวิชาต่างๆ ความประพฤติตัวที่ดีงาม คุณธรรมจริยธรรม หรือ จะเรียกว่า ครุเป็น ผู้ชี้นำ การเรียนการสอนนั้น ยังยึดติดกับการใช้ตำรา และกระดานดำเป็นส่วนใหญ่ โดยจะสอนตามเนื้อหาที่ครูผู้สอนได้จัดทำไว้อย่างละเอียด
ส่วนในปัจจุบัน ครูผู้สอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กล่าวคือ การสอนการสอนทุกอย่าง ครูเป็นแค่เพียงครูพี่เลี้ยง ครูบอกกล่าว แนะนำ ติเตียน แก่ผู้เรียนเท่านั้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ จะไม่มีการรัยนเพียงแต่ในห้องเหมือนอดีต แต่จะมีการศึกษานอกห้องเรียน เพื่อทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง และส่วนมากจะนำเทคโนโลยีมาช่วยสอน เพราะเทคโนโลยีนั้นมีความสำคัญอย่างมากกับปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ด่านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองการปกครอง ตลอดจนด้านความมั่นคงของประเทศ ดังนั้นผู้เรียนรุ่นใหญ่ควรคู่กับการเรียนรู้ให้เท่านั้นกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน การทำงานหรือการเรียนของเด็กจะไม่หมกหมุ่นอยู่กับตำราเรียน เพราะในตำราเรียนนั้น ความรู้ยังไม่กว้างขวาง ตลอดจนยังไม่มีการสอดแทรกเนื้อหาความรู้ต่างๆที่เป็นประโยชน์ในด้านการเรียน หรือด้านตัวเอง เด็กในสังคมปัจจุบัน จึงเลือกการเรียนการสอนแบบการใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนของพวกเขา เพื่อที่จะทำให้พวกเขาก้าวทันต่อโลกปัจจุบัน
2. รูปแบบการศึกษาที่พึ่งเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งที่มีบุคคลหนึ่งได้กล่าวอย่างสนุกว่า "มีครูอยู่ 3 คน" ครูนั้นได้แก่ใครบ้าง และมีชื่อว่าอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร ครู 3 คนนั้นคือ อากู๋ น้องวิกกี้ และอีตูบ
อากู๋ คือ เว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล
น้องวิกกี้ คือ สารานุกรมเสรีหลายภาษาบนอินเทอร์เน็ต ที่ทุกคนสามารถอ่านและปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหาซึ่งทำให้วิกิพีเดียกลายเป็นสารานุกรมที่ได้รับการแก้ไขรวบรวมและดูแลรักษาจากอาสาสมัครหลายแสนคนทั่วโลกผ่านซอฟต์แวร์ ชื่อ มีเดียวิก
อีตูบ คือ เป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนภาพวิดีโอที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่สำคัญทุกอย่างที่นี่ฟรี โดยในเว็บไซต์นี้ ผู้ใช้สามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป เปิดดูภาพวิดีโอที่มีอยู่ และแบ่งภาพวิดีโอ เหล่านี้ให้คนอื่นดูได้ด้วย
ประโยชน์ ของครูทั้ง 3
ครูทั้ง 3 นี้ มีประโยชน์อย่างมากในแวดวงของการศึกษา เพราะการศึกษาในปัจจุบันได้ให้ผู้เรียนเป็นจุดสำคัญหรือเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนั้นครุทั้งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนั้นครุทั้ง 3 นี้จึงมีบทบาทมาช่วยในการเรียนของผู้เรียน หรือการสอนของครูผู้สอน ให้การเรียนการสอนนั้นทันต่อเทคโนโลยี หรือทันต่อเหตุการณ์บ้านเมือง ไม่ทำให้ผู้เรียนเรียนเพียงในเนื้อหาวิชาที่หลักสูตรกำหนดเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจากผู้อื่น ที่ผู้อื่นนำมาเล่าหรือนำมาเขียน ตลอดจนนำมาแสดงเหตุผลให้ได้อ่าน ได้ฟัง ได้พิจารณาตาม
3. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาในลักษณะ e-Learning แบบ Real-Time แตกต่างจาก Non Real-Time อย่างไร 2 แบบนี้มัลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนี้ e-learning หมายถึงการศึกษาที่เรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตโดยผู้เรียนรู้จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง การเรียนรู้จะเป็นไปตามปัจจัยภายใต้ทฤษฎีแห่งการเรียนรู้สองประการคือ เรียนตามความรู้ความสามารถของผู้เรียนเอง และ การตอบสนองใน ความแตกต่างระหว่างบุคคล e-learning มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบ Real-time และ แบบ Non real-time ซึ่ง
แบบ Real-time ได้แก่การสนทนาในลักษณะของการพิมพ์ข้อความแลกเปลี่ยนข่าวสาร
กัน หรือ ส่งในลักษณะของเสียง จากบริการของ Chat room
แบบ Non real-time ได้แก่การส่งข้อความถึงกันผ่านทางบริการ อิเลคทรอนิคเมลล์
WebBoard News-group เป็นต้น
4. Virtual Classroom คืออะไร
ความหมาย การ เรียนการสอนที่จำลองแบบเสมือนจริง เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาสถาบันการศึกษา ต่างๆ ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและจะขยายตัวมากขึ้นในศตวรรษที่ 21 การเรียนการสอนในระบบนี้อาศัยสื่ออิเล็กทรอนิกส์โทรคมนาคม และเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นหลักที่เรียกว่า Virtual Classroom หรือ Virtual Campus บ้าง นับว่าเป็นการพัฒนาการ บริการทางการศึกษาทางไกลชนิดที่เรียกว่าเคาะประตูบ้านกันจริงๆ เป็นรูปแบบใหม่ของสถาบันการศึกษาในโลกยุคไร้พรมแดนมีนักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายของคำว่า Virtual Classroom ไว้ดังนี้
ความหมาย การ เรียนการสอนที่จำลองแบบเสมือนจริง เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาสถาบันการศึกษา ต่างๆ ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและจะขยายตัวมากขึ้นในศตวรรษที่ 21 การเรียนการสอนในระบบนี้อาศัยสื่ออิเล็กทรอนิกส์โทรคมนาคม และเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นหลักที่เรียกว่า Virtual Classroom หรือ Virtual Campus บ้าง นับว่าเป็นการพัฒนาการ บริการทางการศึกษาทางไกลชนิดที่เรียกว่าเคาะประตูบ้านกันจริงๆ เป็นรูปแบบใหม่ของสถาบันการศึกษาในโลกยุคไร้พรมแดนมีนักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายของคำว่า Virtual Classroom ไว้ดังนี้
ศ. ดร. ครรชิต มาลัยวงศ ได้กล่าวถึงความหมายของห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) ว่า
หมายถึง การเรียนการสอนที่ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียน เข้า
ไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย (File Server) และเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้ให
บริการเว็บ (Web Server) อาจเป็นการเชื่อมโยงระยะใกล้หรือระยะไกล ผ่านทางระบบการสื่อสาร
และอินเทอร์เน็ตด้วย กระบวนการสอนผู้สอนจะออกแบบระบบการเรียนการสอนไว้โดยกำหนด
กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อต่างๆ นำเสนอผ่านเว็บไซต์ประจำวิชา จัดสร้างเว็บเพจในแต่ละส่วน
ให้ สมบูรณ์ ผู้เรียนจะเข้าสู่เว็บไซต์ประจำวิชาและดำเนินการเรียนไปตามระบบการเรียน ที่ผู้สอน
ออกแบบไว้ในระบบเครือข่ายมีการจำลองสภาพแวดล้อมต่างๆ ในลักษณะเป็นห้องเรียนเสมือน
(ครรชิต มาลัยวงศ์, 2540)
บุญเกื้อ ควรหาเวช ได้กล่าวถึงห้องเรียนเสมือนว่า (Virtual Classroom) หมายถึง การ จัดการ
เรียนการสอนที่ ผู้เรียนจะเรียนที่ไหนก็ได้ เช่น ที่บ้าน ที่ทำงาน โดยไม่ต้องไปนั่งเรียนในห้อง เรียน
จริงๆ ทำให้ประหยัดเวลา ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย
(บุญเกื้อ ควรหาเวช. 2543: 195)
รุจโรจน์ แก้วอุไร กล่าวไว้ว่าห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) เป็นการจัดการเรียนการ
สอนทางไกลเต็มรูปแบบ โดยมีองค์ประกอบครบ ได้แก่ ตัวผู้เรียน ผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้น เข้าสู่
กระบวนการเรียนการสอนพร้อมๆ กัน มีสื่อการสอนทั้งภาพและเสียง ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรม
กลุ่ม หรือตอบโต้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนหรือกับเพื่อนร่วมชั้นได้เต็มที่
(คล้ายกับ chatroom) ส่วนผู้สอนสามารถตั้งโปรแกรมติดตามพัฒนาการ ประเมินผลการเรียนรวมทั้งประสิทธิภาพของหลัก สูตรได้ ทั้งนี้ไม่จำกัดเรื่องสถานที่ แต่ผู้เรียนในชั้นและผู้สอนจะต้องนัดเวลาเรียนอย่าง
พร้อมเพรียง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร กล่าวว่าห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) เป็นการเรียน การ
สอนที่จะต้องมีการนัดเวลา นัดสถานที่ นัดผู้เรียนและผู้สอน เพื่อให้เกิดการเรียนการสอนมีการ
กำหนดตารางเวลาหรือตารางสอนผู้เรียนไม่ต้องเดินทางแต่เรียกผ่านเครือข่ายตามกำหนดเวลาเพื่อ
เข้าห้องเรียนและเรียน ได้แม้จะอยู่ที่ใดในโลก
สรุป กล่าวได้ว่าได้ว่า ห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) หมายถึง การเรียนการสอนที่
กระทำผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเข้าไว้กับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย (File Server) และคอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเว็บ (Web sever)
เป็นการเรียนการสอนที่จะมีการนัดเวลาหรือไม่นัดเวลาก็ได้ และนัดสถานที่ นัดตัวบุคคล เพื่อให้
เกิด การเรียนการสอน มีการกำหนดตารางเวลาหรือตารางสอน เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอน
พร้อมๆ กันหรือไม่พร้อมกัน มีการใช้สื่อการสอนทั้งภาพและเสียง ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรมกลุ่ม
หรือตอบ โต้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สอนหรือกับเพื่อนร่วมชั้นได้เต็มที่ (คล้าย chat room)
ส่วนผู้สอน สามารถตั้งโปรแกรมติดตามพัฒนาการประเมินผลการเรียนรวมทั้งประสิทธิภาพของ
หลักสูตรได้ ทั้งนี้ ไม่จำกัดเรื่องสถานที่ เวลา (Any Where & Any Time) ของผู้เรียนในชั้นและผู้สอน
5. Asychonous Learning คือรูปแบบการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในลักษณะใด
Asynchronous Learning คือ รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอน และผู้เรียนไม่จำเป็นต้องพบ
Asynchronous Learning คือ รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอน และผู้เรียนไม่จำเป็นต้องพบ
กันตามเวลาในตาราง ที่กำหนดไว้ (Synchronous Learning) แต่ผู้สอนและผู้เรียนสามารถติดต่อกัน
ได้ตลอดเวลา โดยใช้เครื่องมือสื่อ สารต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา และ
สถานที่ ผู้เรียนสามารถเรียนที่ไหน เวลาใดก็ได้ (Anywhere Anytime) เป็นการเรียนที่อาศัยวิธีการ
หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ในลักษณะที่ปฏิสัมพันธ์ และมีส่วนร่วม
ช่วยเหลือกันระหว่าง ผู้เรียน โดยใช้แหล่ง ข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ทั้งใกล้และไกล ผู้เรียนสามารถศึกษา
ค้นคว้า หรือเข้าถึงข้อมูลความรู้เหล่านั้น จากที่ไหน และเวลาใดก็ได้ ตามความต้องการและความ
สะดวกของผู้เรียนเอง ซึ่ง Asynchronous Learning เป็นการใช้การสื่อสารระยะไกล
(Telecommunication) เพื่อช่วยให้การเรียนรู้มีลักษณะใกล้เคียงกับการเรียนในระบบห้องเรียนหรือ
การเรียนการสอนที่ผู้สอนกับผู้เรียนได้พบหน้ากัน (Face - to - Face Instruction)
6. Hypermedia คือเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาอะไร และนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร
Hypermedia คือ สื่อหลายมิตินั้นเป็นสื่อประสมที่พัฒนามาจากข้อความหลายมิติ ซึ่งแนวความคิด
Hypermedia คือ สื่อหลายมิตินั้นเป็นสื่อประสมที่พัฒนามาจากข้อความหลายมิติ ซึ่งแนวความคิด
เกี่ยวกับข้อ ความหลายมิติ ( hypertext ) นี้มีมานานหลายสิบปีแล้ว โดย แวนนิวาร์ บุช (Vannevar
Bush) เป็นผู้ ที่มีความคิดริเริ่มเกี่ยวกับเรื่องนี โดยเขากล่าวว่าน่าจะมีเครื่องมืออะไรสักอย่างที่ช่วยในเรื่อและความคิดของมนุษย์ที่จะช่วยให้เราสามารถสืบค้นและเรียกใช้ข้อมูลจากความจำคอมพิวเตอร์ได้ หลาย ๆ
ข้อมูลในเวลาเดียวกันเหมือนกับที่คนเราสามารถคิดเรื่องต่าง ๆ ได้หลายเรื่องในเวลาเดียวกัน
สื่อหลายมิติ (Hypermedia) มีนักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายและลักษณะของสื่อหลายมิติ
ไว้ดังนี้
น้ำทิพย ์ วิภาวิน กล่าวไว้วา่ สื่อหลายมิติ (Hypermedia) เป็นเทคนิคที่ต้องการใชสื่อผสม อื่นๆ ที่คอมพิวเตอร์สามารถนำเสนอได้ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ทั้งข้อความ เสียง ภาพนิ่ง และภาพ
เคลื่อนไหว
วิเศษศักดิ์ โคตรอาชา กล่าวว่า สื่อหลายมิติ Hypermedia เป็นการขยายแนวความคิดจาก
Hypertext อันเป็นผลมาจากพัฒนาการของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สามารถผสมผสานสื่อและ
อุปกรณ์หลายอย่างให้ทำงานไปด้วยกัน
กิดานันท์ มลิทอง กล่าวไว้ว่า สื่อหลายมิติ เป็นการขยายแนวความคิดของข้อความหลายมิติ
ในเรื่องของการเสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรง และเพิ่มความสามารถในการบรรจุข้อมูลในลักษณะของภาพเคลื่อนไหวแบบวีดิทัศน์ ภาพกราฟิคในลักษณะภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย เสียงพูด เสียงดนตรี เข้าไว้ในเนื้อหาด้วย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาเรื่องราวในลักษณะ ต่างๆ ได้หลายรูปแบบกว่าเดิม
ประโยชน์และลักษณะของบทเรียนหลายมิติ
การเรียนบทเรียนที่มีลักษณะสื่อหลายมิติผู้เรียนสามารถเรียนรู้ข้อมูลจากบทเรียนได้หลาย
ประเภทดังนี้
1.เรียกดูความหมายของคำศัพท์
2. ขยายความเข้าใจเนื้อหาโดย ดูแผนภาพ หรือภาพวาด ภาพถ่าย หรือฟังคำอธิบายหรือฟังเสียงดนตรี เป็นต้น
3. ใช้สมุดบันทึกที่มี อยู่ในโปรแกรมบันทึกใจความสำคัญ
4. ใช้เครื่องมือวาดภาพในโปรแกรมวาดแผนที่มโนทัศน์ของตน
5. สามารถเชื่อมโยงข้อมูล ต่าง ๆ ที่สนใจมาอ่านได้โดยสะดวก
6. ใช้แผนที่ระบบดูว่าขณะนี้กำลังเรียนอยู่ส่วนใดของบทเรียน
7. ให้นิสิตเขียนตารางเปรียบเทียบแนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาใน 3 ยุค
ข้อเปรียบเทียบ | แนวโน้มที่ 1 | แนวโน้มที่ 2 | แนวโน้มที่ 3 |
ลักษณะของการสื่อสาร | เป็นการสื่อสารมวลชนมากขึ้น และเป็นการสื่อสารระหว่างบุคคล โดยจะใช้เสียง เป็นการสื่อสาร | เป็นการสื่อสารมวลชนและระหว่างบุคคล เป็นการสื่อสารด้วยภาพมากขึ้นและเป็นการผสมระหว่างภาพกับเสียง | มีการนำเทคโนโลยีชนิดอื่นๆ มาประกอบหรือประยุกต์ใช้ |
ประสิทธิภาพในการสื่อสาร | ไม่ประสิทธิภาพในการสื่อสาร | มีประสิทธิภาพในการสื่อสารสูง | มีประสิทธิภาพในการสื่อสารสูงมาก |
ราคาของสื่อ | แพง | แพง | ยิ่งพัฒนาไปมากเท่าไร ราคาก็ยิ่งต่ำลง |
8. ให้นิสิตสรุปประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษามา 5 ข้อ
ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา มีดังนี้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องการเรียนรู้ ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วย
สนับสนุนการเรียนรู้ หลายด้าน มีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบสนับสนุนการรับรู้
ข่าวสาร เช่น การค้นหาข้อมูลข่าวสารเพื่อการเรียนรู้ใน World Wide Web เป็นต้น
2. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาสนับสนุนการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการจัดการศึกษา
สมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารเพื่อการวางแผน การดำเนินการ การติดตามและประเมินผล
ซึ่งอาศัยคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมเข้ามามีบทบาทที่สำคัญ
3. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการสื่อสารระหว่างบุคคล ในเกือบทุกวงการทั้งทางด้าน
การศึกษาจำเป็นต้องอาศัยสื่อสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคล เช่น การสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนโดยใช้องค์ประกอบที่สำคัญช่วยสนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่น การใช้
โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เทเลคอมเฟอเรนซ์ เป็นต้น
4. ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อการศึกษา และโดยเฉพาะการนำมาปรับใช้สำหรับคนพิการได้ผลดีอย่างมากมาย กล่าวคือคนพิการสามารถพึ่งตนเองในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง (Independent Learning) ไม่เป็นภาระแก่ผู้ดูแลอย่างที่เคยเป็นมาก่อนในอดีต การเรียนเกิดขึ้น
ได้อย่างสม่ำเสมอและรวดเร็วเทียบเท่ากับคนทั่วไป
5. การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลักเป็นการประยุกต์ใช้ยุทธวิธีการสอนด้านพุทธพิสัย
(Cognitive) ภายใต้สภาพแวดล้อมทางการเรียนที่ผู้เรียนเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ และการเรียนแบบ
ร่วมมือกัน (Collaborative Learning) เนื่องจากการเรียนแบบนี้ผู้เรียนเป็นผู้ควบคุมการเรียนด้วย
ตนเอง เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (Child Center) และเรียนดว้ ยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (Learner
Interaction) การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลักเป็นการจำลองสถานการณ์การเรียนการสอนในห้องเรียนในรูปของสืบค้นองค์ความรู้จากเว็บ หรืออาจเรียกว่า อีเลิร์นนิ่ง (E-Learning) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอีเอ็ดยูเคชั่น (E-Education) และเป็นส่วนหนึ่งของอีคอมเมิร์ช (E-commerce)
9. Tablet PC คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อการศึกษา และตามนโยบายของรัฐบาลได้ระบุว่าจะแจกให้กับนักเรียนนั้นนิสิตคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด
โดยพื้นฐานแล้ว Tablet PC ไม่มีอะไรแตกต่างจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เพียงแต่ไม่มีคีย์บอร์ด ไม่มีเมาส์ เท่านั้นเอง เรายังใช้งานโปรแกรมใน Windows XP, Windows Vista ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซลล์ การใช้งานอินเตอร์เน็ต สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม iPad ก็จัดอยู่ในประเภท Tablet PC เช่นเดียวกัน การใช้งาน iPad จะไม่มีคีย์บอร์ด ไม่มีเมาส์ ทุกอย่างทาบนหน้าจอทั้งสิ้น มีรูปร่างสวยงาม น้ำหนักเบาพกพาได้ง่าย
ประโยชน์ทางด้านการศึกษาของ Tablet PC
สาหรับข้อดีของ iPad ที่มีมากกว่าสมุดจดทั่วไปคือ สามารถเป็นช่องทางที่ให้ครูและนักเรียนแลกเปลี่ยนการบ้าน และเอกสารต่าง ๆ ในรูปแบบดิจิตอลได้ อีกทั้ง iPad ยังเป็นสื่อมัลติมีเดียที่สร้างความสนุกสนานไปกับบทเรียนในรูปแบบเกมส์ต่างๆ
ตามนโยบายของรัฐบาลได้ระบุว่าจะแจกให้กับนักเรียนนั้น กระผมคิดว่า ไม่สมควร เพราะเด็กนักเรียนไทยในปัจจุบัน การเรียนขึ้นพื้นฐาน คือ การเขียน การอ่าน การฟัง ตลอดจนการพูดนั้น ยังมีปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะการเขียน การเขียนเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ ถ้ารัฐบาลสมัยนี้นำ Tablet PC มาแจกแก่นักเรียนของตน ก็เปรียบเสมือนฆ่านักเรียนตายทั้งเป็น เพราะจะทำให้ นักเรียนเขียนหนังสือไม่เป็น
10. ให้เขียนความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Tablet PC , IPAD และ Notebook Tablet คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ขนาดกลางและใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมีความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบ convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุนหรือแบบสไลด์ก็ตาม
10. ให้เขียนความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Tablet PC , IPAD และ Notebook Tablet คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ขนาดกลางและใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมีความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบ convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุนหรือแบบสไลด์ก็ตาม
Notebook คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ ถูกออกแบบไว้เพื่อนำติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา ในปัจจุบันมีขนาดพอๆกับสมุดที่ทำด้วยกระดาษ
IPAD คือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล โดยมีหน้าที่หลักในด้านมัลติมีเดียในด้าน ภาพยนตร์ เพลง เกม อีบุ๊ก และท่องเว็บไซต์ ขนาดและน้ำหนักของไอแพดมีขนาดเบากว่าแล็ปท็อป
Tablet PC ไม่มีอะไรแตกต่างจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เพียงแต่ไม่มีคีย์บอร์ด ไม่มีเมาส์ เท่านั้นเอง เรายังใช้งานโปรแกรมใน Windows XP , Windows Vista ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซลล์ การใช้งานอินเตอร์เน็ต สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม iPad เองก็จัดอยู่ในประเภท Tablet PC เช่นเดียวกัน การใช้งาน iPad จะไม่มีคีย์บอร์ด ไม่มีเมาส์ ทุกอย่างทำบนหน้าจอทั้งสิ้น มีรูปร่างสวยงาม น้ำหนักเบาพกพาได้ง่าย
11. เครือข่ายสังคมออนไลน์คืออะไร นำมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาได้หรือไม่ อย่างไร เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking) คือสังคมที่ผู้คนสามารถทาความรู้จัก ร่วมแบ่งปันสิ่งที่สนใจ และสามารถเชื่อมโยงกันได้ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ในโลกอินเตอร์เน็ต โดยอาศัยรูปแบบการบริการ เรียกว่า “บริการเครือข่ายสังคม หรือ Social Networking Service (SNS)” โดยเป็นรูปแบบของเว็บไซต์ ในการสร้างเครือข่ายสังคม สาหรับผู้ใช้งานในอินเทอร์เน็ต ที่ใช้เขียนและอธิบายความสนใจ และกิจกรรมที่ได้ทา และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น รวมทั้งข้อมูลส่วนตัว บทความรูปภาพผลงาน พบปะ แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือความสนใจร่วมกัน และกิจกรรมอื่นๆ รวมไปถึงเป็นแหล่งข้อมูลจานวนมหาศาลที่ผู้ใช้สามารถช่วยกันสร้างเนื้อหาขึ้นได้ตามความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking) สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการเรียนการสอนเป้นอย่างมาก เพราะ ปัจจุบันการเรียนนั้นต้องให้ทันต่อเหตุการณ์ของบ้านเมือง ทันต่อโลก
12. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะการเผยแพร่ตัวตนคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย กลุ่มเว็บไซต์เผยแพร่ “ตัวตน”เว็บไซต์เหล่านี้ใช้สาหรับนาเสนอตัวตน และเผยแพร่เรื่องราวของตนเองทางอินเตอร์เน็ต หรือผู้ใช้สามารถเขียน blog สร้างอัลบั้มรูปของตัวเอง สร้างกลุ่มเพื่อนในห้องเรียน และสร้างเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้ขึ้นมาได้ ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้คือ myspace.com, hi5.com และ facebook.com เป็นต้น
13. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะการเผยแพร่ผลงานคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย
กลุ่มเวปไซต์เผยแพร่ “ผลงาน”เราสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้ในการนาเสนอผลงานของตัวเอง ผลงานของกลุ่ม ได้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ รูปภาพ หรือเสียงอาจารย์สอนที่ได้จากการบันทึกในชั้นเรียนเป็นต้น ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้เช่น YouTube.com, Yahoo VDO, Google VDO, Flickr.com, Multiply.com เป็นต้น
กลุ่มเวปไซต์เผยแพร่ “ผลงาน”เราสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้ในการนาเสนอผลงานของตัวเอง ผลงานของกลุ่ม ได้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ รูปภาพ หรือเสียงอาจารย์สอนที่ได้จากการบันทึกในชั้นเรียนเป็นต้น ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้เช่น YouTube.com, Yahoo VDO, Google VDO, Flickr.com, Multiply.com เป็นต้น
14. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะกลุ่มที่มีความสนใจตรงกันคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย กลุ่มเว็บไซต์ที่มีความสนใจตรงกัน มีลักษณะเป็น Online Bookmarking หรือ Social Bookmarking โดยมีแนวคิดที่ว่า แทนที่เราจะทา Bookmark (เหมือนกับเราคั่นหนังสือ) เว็บที่เราชอบ หรือบทความรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเรียน เก็บEducational Technology 4 ไว้ในเครื่องของเราคนเดียว สู้เรา Bookmark เก็บไว้บนเว็บจะดีกว่า เพื่อจะได้แบ่งให้เพื่อน ๆ คนอื่นดูได้ด้วย และเราก็จะได้รู้ด้วยว่าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมาก เป็นที่น่าสนใจ โดยดูได้จากจานวนตัวเลขที่เว็บไซต์นั้นถูก Bookmark เอาไว้จากสมาชิกคนอื่นๆ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ ได้แก่ del.icio.us, Digg, Zickr, duocore.tv เป็นต้น
15. เครือข่ายสังคมออนไลน์ในลักษณะทำงานร่วมกันคืออะไร ให้ยกตัวอย่างมา 2 เครือข่าย
กลุ่มเว็บไซต์ที่ใช้ทางานร่วมกัน เป็นกลุ่ม SNS ที่เปิดให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มเข้ามานาเสนอข้อมูล ความคิดหรือต่อยอด เรื่องราวต่าง ๆ ได้ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ได้แก่ WikiPedia เป็นสารานุกรมต่อยอด ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน และแก้ไขบทความต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทาให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย ปัจจุบันเราสามารถใช้ Google Maps สร้างแผนที่ของตัวเอง หรือแชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ด้วย จึงทาให้มีสถานที่สาคัญ หรือสถานที่ต่างๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ไว้แสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
กลุ่มเว็บไซต์ที่ใช้ทางานร่วมกัน เป็นกลุ่ม SNS ที่เปิดให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มเข้ามานาเสนอข้อมูล ความคิดหรือต่อยอด เรื่องราวต่าง ๆ ได้ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ได้แก่ WikiPedia เป็นสารานุกรมต่อยอด ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน และแก้ไขบทความต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทาให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย ปัจจุบันเราสามารถใช้ Google Maps สร้างแผนที่ของตัวเอง หรือแชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ด้วย จึงทาให้มีสถานที่สาคัญ หรือสถานที่ต่างๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ไว้แสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
16. Tablet มีประโยชน์อย่างไรในวงการศึกษา
ข้อดีของ Tablet ที่มีมากกว่าสมุดจดทั่วไปคือ สามารถเป็นช่องทางที่ให้ครูและนักเรียนแลกเปลี่ยนการบ้าน และเอกสารต่าง ๆ ในรูปแบบดิจิตอลได้ อีกทั้ง iPad ยังเป็นสื่อมัลติมีเดียที่สร้างความสนุกสนานไปกับบทเรียนในรูปแบบเกมส์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
และยังสามารถทำให้ผู้เรียนสนใจการเรียนมากขึ้น เพราะใน Tablet นั้นมีโปรแกรมต่างๆที่เอื้อต่อการเรียนของผู้เรียนเป้นอย่างมาก ทั้งยังทำหู้เรียนได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการดรียนจริง ทำให้ผู้เรียนไม่น่าเบื่อในการเรียน บรรยากาศในห้องเรียนเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)